วิธีชาร์จรถไฟฟ้าที่ถูกต้อง ให้แบตไม่เสื่อม ยืดอายุการใช้งาน

เมื่อตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า การเรียนรู้วิธีชาร์จรถไฟฟ้า ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการชาร์จที่ไม่ถูกวิธีอาจส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานรถไฟฟ้าลดลง และอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อนเวลาอันควร เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ในบทความนี้ Bandonpiya เราจะพาคุณมาดูวิธีชาร์จรถไฟฟ้าที่ถูกต้องกัน

การชาร์จรถไฟฟ้าถูกวิธี ช่วยยืดอายุการใช้งานรถได้จริงไหม

แบตเตอรี่เป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า การชาร์จอย่างถูกวิธีจึงมีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งาน เพราะแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ามีความไวต่อความร้อนและรูปแบบการชาร์จวิธีชาร์จรถไฟฟ้า ที่ถูกต้องจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ยืดอายุการใช้งาน และลดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว

การชาร์จไฟของรถยนต์ไฟฟ้า EV มีกี่แบบ

วิธีชาร์จรถไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 2 ระบบหลัก คือ ระบบ AC และ DC ซึ่งแต่ละระบบมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน การเลือกใช้ระบบชาร์จที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งวิธีชาร์จรถไฟฟ้าทั้ง 2 แบบจะเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ดูได้ดังนี้

การชาร์จรถไฟฟ้าระบบ AC

การชาร์จด้วยไฟกระแสสลับ (AC) เป็นการชาร์จแบบปกติที่ใช้เวลานานกว่า แต่ดีต่อสุขภาพแบตเตอรี่มากกว่า เหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงในการชาร์จเต็ม ข้อดีคือราคาถูกกว่าและช่วยยืดอายุแบตเตอรี่

การชาร์จรถไฟฟ้าระบบ DC

การชาร์จด้วยไฟกระแสตรง (DC) หรือที่เรียกว่า Fast Charge สามารถชาร์จได้เร็วกว่า โดยใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีในการชาร์จจาก 20% ถึง 80% เหมาะสำหรับการเดินทางไกลที่ต้องการความรวดเร็ว แต่ควรใช้เป็นครั้งคราวเท่านั้นเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่

5 วิธีชาร์จรถไฟฟ้าที่ถูกต้อง ยืดอายุการใช้งาน

การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้มีอายุการใช้งานยาวนานนั้น ต้องเริ่มจากการชาร์จที่ถูกวิธี ฉะนั้น มาดูกันดีกว่าว่า 5 วิธีการชาร์จรถไฟฟ้าที่ถูกต้อง มีอะไรบ้าง

1. ไม่ปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือ 0%

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนไม่ควรปล่อยให้พลังงานหมดจนเกลี้ยง ควรรักษาระดับแบตเตอรี่ให้อยู่เหนือ 20% เสมอ การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดบ่อยๆ จะทำให้เซลล์แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น และอาจส่งผลต่อระบบการทำงานของรถ

2. ไม่ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100%

การชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% ทุกครั้งไม่ใช่วิธีที่ดี ควรชาร์จให้อยู่ที่ประมาณ 80-90% เพื่อเว้นพื้นที่ให้แบตเตอรี่ได้พัก การชาร์จเต็มควรทำเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกลเท่านั้น

3. เลี่ยงการชาร์จ ในบริเวณอากาศร้อน

ความร้อนเป็นศัตรูตัวร้ายของแบตเตอรี่ หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ที่มีอากาศร้อนจัด หรือกลางแดด ควรเลือกชาร์จในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทดี หรือในช่วงกลางคืนที่อากาศเย็น

4. ไม่ชาร์จรถไฟฟ้าระบบ DC บ่อย ๆ

แม้การชาร์จเร็ว DC จะสะดวก แต่การใช้บ่อยเกินไปจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ควรใช้เฉพาะเมื่อจำเป็น เช่น การเดินทางไกล และพยายามใช้การชาร์จแบบ AC เป็นหลัก

5. ตรวจเช็กระบบชาร์จสม่ำเสมอ

ตรวจสอบสายชาร์จและอุปกรณ์ชาร์จเป็นประจำ ดูว่ามีการชำรุดหรือเสียหายหรือไม่ หากพบความผิดปกติควรรีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลต่อแบตเตอรี่

สรุป

การช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มได้จากการเรียนรู้และเข้าใจวิธีชาร์จรถไฟฟ้าที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาระดับแบตเตอรี่ให้อยู่ระหว่าง 20-80% การหลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ร้อน และการเลือกใช้การชาร์จ AC เป็นหลัก หากคุณสนใจเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าและต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม BYD สุราษฎร์ธานี พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำการดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าอย่างถูกวิธี เพื่อให้คุณได้ใช้งานรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยาวนานที่สุด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

• โทร: 077-289-555 สาขาบางกุ้ง
• โทร: 077-289-556 สาขาบางใหญ่
• Facebook: BYD B Infinite Surat Thani 
• Facebook: BYD B Infinite Surat Thani Bang Yai
• Tiktok: bydsuratthani